วันพุธที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2561

บทสนทนามื้อเที่ยงเมื่อ 6 ปีก่อน ที่นึกขึ้นได้วันนี้และแอบทำให้ขนลุก (แกมเสียดาย) - เกี่ยวกับ bitcoin นิดหน่อย

เมื่อราวๆ 6 ปีก่อน ครั้งที่ผมยังทำงานอยู่บริษัท IT ข้ามชาติแห่งนึงแถวๆข้างสวนลุมพินี
วันนั้น ผมไปกินข้าวเที่ยงกับพี่คนนึงในทีมตามปกติ ณ ร้านข้าวแกงหลังตึกที่เราทำงานอยู่

ตอนนั้นผมค่อนข้างใหม่กับเรื่องการลงทุนมาก แต่ค่อนข้างไฟแรงและสนใจใครรู้มากๆกว่าเราจะหลุดจากวงจรหนูถีบจักรของมนุษย์เงินเดือนที่ไม่มีอิสระในชีวิตของตัวเองได้ยังไง (เหมือนเพิ่งจะรับแนวคิดมาจากเซ็ตหนังสือพ่อรวยสอนลูก)

ผมชอบยกคำถามหรือประเด็นต่างๆที่เกี่ยวกับเรื่องการเงินการลงทุน หรือวิธีหาอิสระภาพทางการเงินอื่นๆขึ้นมาคุย เพื่อจะได้ความรู้จากคนอื่นๆรอบๆตัวด้วย

จนเหมือนจะกลายเป็นแบรนด์ของผมไปกลายๆ ราวกับว่ามีฉลาก "financial freedom" แปะอยู่บนหน้าผากผม

ในวันนั้นเราคุยกันว่า ระบบการเงินของโลกทำงานยังไง แล้วคนสร้างฐานะหรือมีอิสระภาพทางการเงินกันขึ้นมาได้ยังไงบ้าง
อยู่ๆก็เกิดสงสัยขึ้นว่า

"ถ้าเราเข้าใจระบบการเงินมากพอ เราจะหาช่องว่างในการออกจากระบบนี้ได้รึเปล่า"

เดิมทีสมัยเด็กๆ ผมเป็นพวกชอบสร้างหรือประดิษฐ์อะไรต่างๆขึ้นมาเอง พวกสิ่งที่ผมอยากได้แต่ไม่มีเงินไปซื้อหามาใช้ อาจจะเพราะรู้สึกว่ามันแพง ไม่สมเหตุสมผล ดูไม่ดี หรืออะไรก็แล้วแต่

จนผมเชื่อว่า "ถ้าอยากได้อะไรแล้วไม่มีตังซื้อ ก็แค่สร้างมันขึ้นมาเองซะสิ"

พอรวมกับความคิดข้างต้น เลยกลายเป็นว่า "เป็นไปได้ไหม ที่เราจะออกจากระบบที่เป็นอยู่ แล้วสร้างระบบใหม่ของเราขึ้นมาเอง" เพราะคนที่เข้าไปอยู่ในโลกใบใหม่เป็นคนแรกมักจะได้เปรียบและตักตวงอะไรได้เยอะก่อนคนอื่นที่ตามมา

"เป็นไปไม่ได้หรอก ถ้าทำได้คนก็คงทำกันไปหมดแล้ว"
"ระบบที่มันเป็นอยู่ทุกวันนี้มันผูกขาดเอาไว้ค่อนข้างสมบูรณ์แบบ เราได้แค่เล่นตามเกมเพื่อไปหาจุดดีๆก็เท่านั้น" พี่ที่ผมคุยด้วยบอกขึ้นมา (อาจจะไม่เป๊ะๆแต่ก็คร่าวๆประมาณนี้)

;
;
;
;
วันนี้ทุกคนคงได้ยินคนพูดถึง Bitcoin ไม่มากก็น้อย
แต่เพิ่งวันนี้เองที่ผมนึกถึงบทสนทนาในวันนั้น และตระหนักว่า

"เฮ้ย นี่มันมีคนแหกระบบเดิมสำเร็จไปแล้วนี่หว่า"

ปรากฎการณ์ของ Bitcoin ในช่วงร้อนแรงนี้ เป็นที่หนาวๆร้อนๆ ของทั้งรัฐบาล และสถาบันการเงิน (แบงก์ชาติ) ต่างๆ
เพราะว่าผู้คนมีทางออกจากระบบเดิมที่พวกเขาผูกขาดอำนาจไว้มาหลายร้อยปี ... อำนาจที่เขาเสกเงินและดูดเงินจากกระเป๋าประชาชนได้เนียนๆผ่านหลายช่องทาง กำลังถูกลดทอนลงไป
;
;
ผมแอบขนลุกนิดหน่อย ในหลายๆแง่มุม

- ผมเป็นคนนึงที่คิดว่า "น่าจะ...." ในวันนั้น และน่าจะมีอีกหลายร้อยหลายพัน (หรือล้าน) คนที่คิด แต่ไม่มีศักยภาพหรืออาจจะไม่ได้ใส่พลังมากพอในการทำมันให้เป็นจริง แต่มีคนนึงทำมันขึ้นมาสำเร็จ (miracle happens)

- เหตุการณ์ที่ผ่านมานานมากแล้วเพิ่งระลึกขึ้นได้ในวันนี้ (เป็นข้อเสียของการไม่ได้หยิบมันมาจดเป็นเป้าหมายแล้วทบทวนทุกวัน เพราะถ้าไม่งั้นเราจะตระหนักได้เร็วกว่านี้มากๆ -- ทำให้เห็นว่าการจดบันทึกเป้าหมายและทบทวนทุกวัน เป็นเรื่องสำคัญ ***)

- ประโยคหรูๆที่พวก Life coach หรือพวกสอนใช้กฏแรงดึงดูด ทำนองว่า "ทุกสิ่งที่คิดจินตนาการได้ ล้วนเกิดขึ้นจริงได้" ,  หรือ "อยากได้อะไรให้คิดว่าได้มันมาในจินตนาการบ่อยๆ ความคิดนั้นจะทำให้สิ่งนั้นเป็นจริงขึ้นมา"  ก็ใช่ว่าจะไม่มีมูลซะทีเดียว  กระแสความคิดของคน โดยเฉพาะในวงกว้าง ถ้ามันมากพอ สุดท้ายมันมักจะผลักดันให้เกิดสิ่งนั้นขึ้นมาจริงๆ

- เราดูจะเอื่อยและช้าไปหน่อย ที่ยังไม่ได้ศึกษาเรื่อง Bitcoin แบบจริงจัง ทั้งที่ก็รู้จักมันคร่าวๆมานานหลายปีมากแล้วก่อนมาเป็นกระแส อันนี้น่าเสียดายโอกาสนิดหน่อย แต่คงไม่มีอะไรสายเกินไปถ้าจะเริ่มซะตอนนี้ (อนึ่ง มันมีความเสี่ยงแน่ๆ เหมือนสินค้าโภคภัณฑ์ ราคาผันผวนสูง ดังนั้นถ้าจะทำอะไรกับมันควรต้องเข้าใจศาสตร์ของการเก็งกำไร (ผมบอกได้เลยว่าไม่ใช่แบบพวกผู้เชี่ยวชาญมาสอนกันตามทีวีช่องการลงทุน พวกนั้นมักสอนไม่ครบระบบ) และเรื่องทางเทคนิคพื้นฐานของ Bitcoin ให้ดีมากพอ ก่อนจะลงเงินกับมันจริงๆ)
;
;
;

ปล. หนังสือดีที่สุดที่จะทำให้เข้าใจหลักการพื้นฐานของการเทรดเก็งกำไร ผมแนะนำให้ศึกษาเรื่องของ Turtle Trading ของ ริชาร์ด เดนนิส, แอบเห็นบทความภาษาไทยและ pdf ภาษาอังกฤษอยู่ (โดยส่วนตัวไปเข้าใจกับ version อังกฤษมากกว่า) พอเข้าใจหลักการแล้วจึงจะมีไอเดียเอาไปประยุกต์ปรับแต่งเป็นของตัวเองได้ต่อไปครับ

ปล2. ยังไงผมก็เป็น VI อยู่ดีนะ ไม่ชอบเก็งกำไร lol แต่สอนและชี้ทางที่ถูกให้ได้ถ้าใครอยากรู้จริงๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น